Recent Posts

7 ไอเดียเครื่องประดับที่ใส่แล้วทำให้คุณดูดีแบบมี design

7 ไอเดียเครื่องประดับที่ใส่แล้วทำให้คุณดูดีแบบมี design

วันนี้  Neverland Effects  จะยกเอาเรื่องราวของเครื่องประดับมาพูดค่ะ ถ้าพูดถึงเครื่องประดับแล้วหลายๆคนอาจจะนึกถึง สร้อยคอ ตุ้มหู แหวน ที่คาดผม เข็มกลัด สร้อยข้อเท้า หรืออะไรอื่นๆแต่ว่าจริงๆแล้ว เครื่องประดับยังสามารถเป็นอะไรก็ได้ค่ะ ที่ใช้ประดับบนส่วนของร่างกายของเราที่มีประโยชน์เพื่อสร้างความมั่นใจจากความชอบของผู้สวมใส่ และทำให้ดูสวยงามมากขึ้น จริงๆแล้วหลักในการออกแบบมาจากความคิดสร้างสรรค์ที่ค่อนข้างอิสระ เหมือนกับขั้นตอนการระดมความคิดค่ะ เราคิดไปก่อนเยอะๆได้ ฟุ้งไปก่อน กระจายความคิดออกไปก่อนให้หลากหลายก่อน แล้วจากนั้นเราต้องมากรอง เลือกเอาเฉพาะข้อมูลและ Design ที่เราสามารถเอามาประยุกต์ใช้กับงานแต่ละชิ้นของเรา  Concept ของเรา หรือที่เรียกว่า กระจาย idea ให้ฟุ้งแล้วเดี๋ยวค่อยๆเกลาให้เข้าที่ ข้อดีของการคิดแบบนี้คือทำให้เราได้ไอเดียและแนวทางใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของ ทางแนวการออกแบบให้เข้ากับ  Concept การเลือกใช้เทคนิคและวิธีการผลิต การเลือกใช้วัสดุ และลักษณะของพื้นที่หรือ function  ประโยชน์ใช้สอย การคิดไอเดียแบบนี้โดยมักจะช่วยให้เราเกิดไอเดียใหม่ๆ ที่ค่อนข้างลงตัว โดยที่ไม่ได้เจาะจงเฉพาะด้าน แต่ว่าดูแล้วเราอาจได้รูปแบบใหม่ function  ใหม่ […]

เมื่อ Brand ของคุณเป็น Hero

เมื่อ Brand ของคุณเป็น Hero

When your brand is A HERO Neverland Effects blog content วันนี้จะพาคุณไปสู่เรื่องราวของเหล่า Hero ค่ะ  Hero ในวันนี้ที่จะเอามาพูดถึงไม่ได้หมายถึง Character ต่างๆที่เราเห็นในหนัง ในหนังสือ ต่างๆ หรือรวมถึงคน idol และใครที่เรารู้จักเท่านั้น แต่จะพูดถึงว่า ความเป็น Hero เหล่านี้ เรายังสามารถถ่ายทอดออกมาทาง Brand ธุรกิจ สินค้า และบริการได้ด้วยค่ะ หรือที่เรามักจะรู้จักกันในภาษาเชิงธุรกิจที่เรียกกันว่า ‘Brand DNA’ Brand DNA คือ ภาพลักษณ์ของ Brand ของธุรกิจต่างๆ มุมมองที่คนอื่นมองมาในยี่ห้อสินค้าหนึ่งๆ หรือธุรกิจหนึ่งๆ ทั้งในด้านความรู้สึก ข้อเด่น ข้อด้อย […]

10 ways to look expensive : 10วิธีแต่งตัวให้ดูแพง

10 ways to look expensive : 10วิธีแต่งตัวให้ดูแพง

เรื่องของบุคลิกเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ไม่ว่าเราจะไปติดต่องาน หรือเจอผู้คน หรือตกลงธุรกิจต่างๆ บุคลิกย่อมเป็นความประทับใจแรกที่ทำให้คนเราเกิดความประทับใจ วันนี้ติวเลยเอาเทคนิควิธีที่จะช่วยให้คุณดูแพง และดูดีขึ้นด้วยเทคนิควิธีการแต่งตัว 10 วิธี 

มีอะไรกันบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

 

1.Red lips : การทาปากสีแดงจะช่วยทำให้ขับบุคลิกขึ้น ให้ความรู้สึกของความมั่นใจ ความมีเสน่ห์ ความเป็นผู้หญิงและบ่งบอกถึงความเซ็กซี่ในแบบเป็นผู้ใหญ่ค่ะ

 

 

  2. Black / White ใส่ชุดโทนขาวหรือดำทั้งตัวเป็นเทคนิคง่ายๆที่ได้ผลมากกับเรื่องของการขับบุคลิกภาพให้ดูเป็น Professional มีความแพง และดูหรูและมีสไตล์ค่ะ 

 

 

 

3. ชุดที่Cutting มาดีใส่แล้วพอดีกับตัว : นี่เป็นเหตุผลที่คนหลายคนนิยมตัดชุดใหม่เพื่อเป็นขนาดเฉพาะของตัวเองค่ะ เพราะว่าการที่เราไปซื้อชุดสำเร็จในหลายๆครั้งเราอาจจะพบว่ามีค่า  error ในการใส่ในรูปแบบต่างๆ เช่น สะโพกหลวมไป บางจุดแน่นไป หรือไหล่ตก หรือใส่แล้วไม่ค่อยพอดีตัวทุกส่วน สาเหตุเพราะเวลาที่ซื้อเสื้อผ้าที่เป็นขนาดมาตรฐาน จะมีการขึ้น pattern ในลักษณะที่เป็นมาตรฐานตามที่กำหนด แต่ในความเป็นจริงแล้วรูปร่างของคนเราแบ่งได้หลายรูปแบบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทรงนาฬิกาทราย ทรงแอปเปิล ทรงสามเหลี่ยม etc. นั่นเลยเป็นเหตุผลที่การตัดเสื้อผ้าใหม่เป็นการตอบโจทย์สำหรับคนที่ให้ความสำคัญมากกับเรื่องของบุคลิกภาพค่ะ

 

 

4. Turtle Neck : เสื้อคอเต่าเป็นตัวช่วยแบบง่ายๆที่แสดงให้เห็นถึงความเรียบหรูค่ะ เป็น item ที่หลายๆคนเลือกใช้ในเวลาที่เราไม่แน่ใจว่าชุดไหนจะทำให้เราดูดี การเลือกใส่เสื้อคอเต่าเป็นทางเลือกนึงที่ช่วยให้ดูแพงได้ง่ายๆเลยค่ะ

 

 

 

5. Scarf : ผ้าพันคอเป็น Prop ที่ช่วยให้ดูดีขึ้นค่ะโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง ในขณะที่สำหรับผู้ชาย สิ่งที่จะช่วยให้ดูดีขึ้นคือ เนคไทน์ เข็มกลัดโลหะประดับกระเป๋าเสื้อ หรือปากกาเก๋ๆซักด้าม

 

 

 

6. Structured or shiny bag : อีกเทคนิคที่จะทำให้คุณดูดีขึ้นได้อีก คือการเลือกใช้กระเป๋าที่มีโครงแทนที่จะใช้กระเป๋าแบบไร้รูปทรงหรือกระเป๋าทรงอ่อนค่ะ และวัสดุประเภทหนังแก้ว โลหะ และอะครีลิคก็ยังเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลุคแพงขึ้นกว่าปกติได้ด้วยค่ะ

 

 

7. Cool jacket or coat : เราสามารถใช้ Coat และ Jacket เพื่อช่วยขับบุคลิกภาพของเราได้ค่ะ แต่ว่า Coat กับ Jacket ที่เราเลือกใส่นั้นควรจะเป็นช้ิ้นที่ใช้เนื้อผ้าดี มีความหนาหรือมีดีไซน์ที่ดี และสิ่งที่สำคัญมากที่เราไม่ควรมองข้ามคือเรื่องของ Cutting ที่ดีและพอดีกับผู้สวมใส่ ไม่หลวมหรือคับไปค่ะ

 

 

8. Match  สีของกระเป๋าและรองเท้าให้เข้ากัน : อันนี้เป็นจุดที่หลายๆคนมองข้ามหรือไม่ทันได้สังเกตค่ะ แต่จริงๆแล้วการที่เราใช้กระเป๋าและรองเท้าสี match  กันจะช่วยให้เราดูดีและเสริมบุคลิกขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

 

 

9. Metallic accessories : การใช้เครื่องประดับหรือ prop ที่เป็นโลหะแวววาว จะช่วยให้คุณดูดีขึ้นโดยที่หลายคนอาจจะไม่ทันรู้สึกว่า item เหล่านี้มีผล แต่ทำให้คนมองรู้สึกว่าทำไมคนๆนี้แต่งตัวดูดีจัง

 

 

10. Add a belt : เข็มขัดเป็นอีก item ค่ะ ที่ช่วยให้เราดูดีขึ้นในกรณีที่เสื้อผ้าเรียบเกินไป เข็มขัดแนวที่แนะนำคือ เข็มขัดที่เป็นโลหะ หรือเป็นหนังค่ะ

 

 

นี่ก็เป็น 10 เทคนิคในการแต่งตัวที่จำช่วยให้คุณดูแพงขึ้น บุคลิกดีขึ้นและเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นค่ะ  คุณไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งหมดทั้ง 10 รูปแบบในชุดเดียวกันในวันเดียวกัน เพราะมันอาจจะทำให้ดูรกและดูเยอะจนเกินไป ให้คุณเลือกเอาบาง item และบางเทคนิคที่น่าสนใจมาลองผสมผสานกับตัวคุณเอง แล้วลองเช็คตัวเองในกระจกว่าเราชอบตัวเองแบบไหน ใส่ item ไหนแล้วเรารู้สึกมั่นใจ นั่นคือการตอบโจทย์ที่แท้จริงของตัวเองแล้วค่ะ 

 

สุดท้ายแล้วถ้าเราแต่งตัวแล้ว เรารู้สึกว่าเราดูดีแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญที่เราควรพกไว้คือ ความมั่นใจค่ะ เพราะความมั่นใจนี่ละค่ะที่เป็นตัวที่ทำให้คนแต่ละคนดูดีและดูมีเสน่ห์

 

‘Confidence makes you beautiful’

4 สิ่งที่ทำแล้วช่วยทำให้คุณ Design สิ่งต่างๆได้ไวขึ้น

4 สิ่งที่ทำแล้วช่วยทำให้คุณ Design สิ่งต่างๆได้ไวขึ้น

4 สิ่งที่ทำแล้วช่วยทำให้คุณ Design สิ่งต่างๆได้ไวขึ้น   จริงแล้วคนที่ทำงานสายออกแบบหรือ Creative มักมีความจำเป็นที่จะต้องคิดหาไอเดีย หามุมมองใหม่ๆ หามุมมองดีๆ หรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆอยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่บางทีก็มักจะเกิดปัญหาในเรื่องของไอเดียตัน ซึ่งทำให้งานช้าลง หรือทำให้เรารู้สึกเสียเวลามากขึ้น แต่วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหาเรื่องของการที่ทำให้เราสมองแล่นกว่าเดิม สามารถคิดอะไรได้ดี ได้ฉับไวมากขึ้น เพียงแค่คุณลองทำ 4 อย่างต่อไปนี้   1.วาด Doodle Picture by chuttersnap  Doodle คือการวาดรูปต่างๆตามที่เราเผลอไม่รู้ตัว หรือการวาดรูปออกมาตามในเวลาที่เราว่าง โดยไม่ด้เป็นตัวกำหนดว่าเราต้องวาดอะไร บางคนอาจวาดออกมาเป็นลักษณะของการ์ตูนและตัวละครต่างๆ ในขณะที่บางคนอาจวาดออกมาเป็นในรูปและเรื่องราวของความเป็น shape หรือเส้นต่างๆ เชิง AbstractDoodle จะไปช่วยพัฒนาสมองส่วนด้านความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ และนอกจากนี้การวาดรูป Doodle ในลักษณะต่างๆยังทำให้เราเข้าใจตัวเองและคนอื่นมากขึ้นว่าใครวาดรูปแบบไหนสามารถสื่อถึงอะไรได้บ้าง เช่น   คนที่ชอบวาดรูปวงกลม จะเป็นคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมาก มีความสุขกับการได้อยู่คนเดียว […]

แอบดูอารมณ์ลูกค้าจากโทนสีชุดที่ลูกค้าเลือกใส่

แอบดูอารมณ์ลูกค้าจากโทนสีชุดที่ลูกค้าเลือกใส่

หลายๆคนคงรู้ว่าเวลาสีสันเนี่ยค่ะ สามารถบอกอะไรได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าเราจะเอาสีแต่ละสีมาใช้ในประเภทธุรกิจของตัวเอง มาใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ มาใช้เป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ  แต่ในวันนี้ติวจะมาบอกว่า นอกจากการรู้ความหมายของสีแต่ละสีจะเป็นประโยชน์แล้วเรายังสามารถเอามาประยุกต์ใช้และวิเคราะห์ได้อีกด้วยนะออเจ้า และในวันนี้สิ่งที่ติวจะนำมาแชร์จะเป็นตัวช่วยให้คุณมีโอกาสปิดการขายสินค้าหรือบริการของคุณได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ เพราะ วันนี้เราจะมาพูดถึง การแอบดูอารมณ์ลูกค้าจากโทนสีที่ลูกค้าเลือกใส่ มาซื้อของนั่นเองค่ะ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ ว่าแต่ละสีที่ลูกค้าใส่ เราจะเข้าใจลูกค้าได้ยังไงบ้าง   1.สีดำ : วันที่ลูกค้าใส่สีดำ วันนั้นจะบ่งบอกว่าลูกค้าให้ความสำคัญกับเรื่องราวของศักยภาพ  ความเป็นทางการแบบสากล  ความทันสมัย และอาจบ่งบอกถึงการปิดบังรูปร่างเพราะคิดว่าตัวเองน้ำหนักขึ้น เพราะสีดำสามารถช่วยให้ดูผอมได้ค่ะ วิธีการคุยกับลูกค้า : อาจเริ่มคุยกับลูกค้าในเรื่องราวของบุคลิกภาพ  ความทันสมัย หรือเรื่องราวการดูแลสุขภาพให้ดูดีอยู่เสมอ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งในเรื่องของสินค้าสวยงาม อาหารเสริม หรือเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มมวลกล้ามเนื้อค่ะ  ถ้าเป็นในกรณีสำหรับธุรกิจที่เป็นงานเชิงบริการ ลองคุยกับลูกค้าในลักษณะกึ่งทางการ กึ่งสบายๆได้ค่ะ ไม่แนะนำให้คุยแนวคุยเล่นแบบมากเกินไป นอกจากกรณีที่ลูกค้าเป็นคนเปิดประเด็นเชิง Friendly เยอะๆ แบบนั้นลุยได้เลยค่ะ     2.สีน้ำเงิน : วันที่ลูกค้าใส่สีน้ำเงิน จะบ่งบอกถึงความสุขุม […]

ออกแบบ Collection ใหม่ Develop Design ไปทางไหนดี?

ออกแบบ Collection ใหม่ Develop Design ไปทางไหนดี?

 

“Design Collection ใหม่ทิศทางไหนดี”

จริงๆแล้วการทำธุรกิจในยุคนี้โดยเฉพาะธุรกิจแนวที่เป็นผลิตภัณฑ์ มักจะมีการ Develop Design ใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาของตัวสินค้าทั้งในลักษณะที่เป็น Version ใหม่ๆออกมาจากผลิตภัณฑ์ตัวเดิม หรืออีกกรณีคือการพัฒนาสินค้าออกมาในรูปแบบของการผลิตออกมาเป็น Collection ใหม่ เทคนิคการพัฒนาตัวสินค้าของธุรกิจต่างๆ มักจะมีอยู่หลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายลักษณะตามความต้องการ ตามเป้าหมาย ตามวิสัยทัศน์ และตาม concept ขององค์กรนั้นๆ

 

ในวันนี้สิ่งที่ติวจะเอามาแชร์คือ เทคนิคการพัฒนาตัวสินค้าในรูปของ Design เหมาะสำหรับเป็น Key ที่จะช่วยบอกว่า ถ้าเราต้องการเปลี่ยนรูปแบบของ Product เราโดยเน้นในเรื่องของงาน Design เราจะสามารถพัฒนาไปในรูปแบบไหนได้บ้าง มีไอเดียยังไง และในเวลาที่ Product ได้มีการพัฒนารูปแบบมาก่อนแล้ว และพัฒนามาถึงจุดๆนึงแล้ว เราควร Develop แนวทางสินค้าไปในรูปแบบทิศทางไหนต่อดี

 

นี่คือรูปแบบแนวทางของการพัฒนารูปแบบสินค้าค่ะ ติวแบ่งย่อยออกเป็น 5 แนวทางและใช้รูปทรงง่ายๆในการอธิบายประกอบว่า เทคนิคในการทำ Design Development แบบง่าย เราจะทำแบบไหนได้บ้าง


1. Transform การเปลี่ยนแบบ : อันนี้เป็นวิธีที่หลายองค์กรมักจะนิยมใช้ให้เห็นมากที่สุดค่ะ เป็นการพัฒนาแบบที่พัฒนาไปในรูปแบบของวิวัฒนาการ มีการเปลี่ยนเป็นรูปทรงและรูปร่างเล็กน้อยจากสินค้าตัวเดิม หรือมีการเปลี่ยนแปลงเป็นขั้นตอนที่ยังคงให้เห็นว่าสินค้ามีที่มายังไง และมาจากรูปแบบไหน
ข้อดี : การทำ Design Development แนวนี้จะทำให้ลูกค้าเห็นชัดถึงที่มาที่ไป และลูกค้ายังจำ Product เดิมของเราได้อยู่ค่ะว่าสินค้าเดิมเป็นแบบไหน และยังทำให้ลูกค้าจดจำในเรื่องของลักษณะผลิตภัณฑ์เดิมของเราที่ทำมาได้
แนวธุรกิจที่เหมาะจะนำไปใช้ : ธุรกิจที่มีอยู่มานาน มีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนในลักษณะของผลิตภัณฑ์ ลูกค้าจำได้แล้วว่าผลิตภัณฑ์รูปแบบแนวนี้เป็นของ Brand ธุรกิจอันนี้ ตัวรูปแบบสินค้าที่มีมาก่อนมีความเป็น Signature อย่างเด่นชัด

 


 

2. Expand or Shrinks การขยายหรือหดตัว : เป็นวิธีการทำ Wide หรือ Narrow กับตัวสินค้าค่ะ อันนี้มีลักษณะคล้ายกับรูปแบบ transform แต่ว่า Key ของการพัฒนาตัวสินค้าคือ เล่นในเรื่องของพื้นที่ เราจะเน้น Focus ไปในเรื่องของการขยายพื้นที่ หรือหดตัวของตัวสินค้าค่ะ
ข้อดี : การพัฒนาสินค้าแนวทางนี้เป็นประโยชน์ทางด้านการปรับดีไซน์ที่ง่ายมาก และสามารถต่อยอดให้เป็น Function ของตัวสินค้าได้อีกค่ะ เช่น ในตัวสินค้าการสามารถทำการหด และ ขยายเพิ่มได้ในตัวเอง และยังสามารถใช้งานอยู่ได้ในสองลักษณะ และเป็นการเพิ่ม Function ให้กับผู้ใช้งานที่สามารถเลือกใช้งานได้มากกว่า 1 รูปแบบ
แนวธุรกิจที่เหมาะจะนำไปใช้ : ในด้าน Design สามารถนำไปใช้ได้ในหลายธุรกิจตามความต้องการ และอีกแนวทางคือธุรกิจที่ต้องการ Function ทางด้านเนื้อที่การใช้งานต่างๆค่ะ ซึ่งพื้นที่เป็นตัวสำคัญหลักที่มีอิทธิพลกับการใช้ เช่น Furniture ที่ต้องใช้ในพื้นที่ที่มีการจำกัด ที่มีการทำรูปแบบให้มีการพับเก็บในพื้นที่ๆแคบได้


3. Cut out or Combine การตัดทิ้งออกไป ไม่ก็เอามารวมกันซะเลย : อันนี้เป็นอีกแนวทางนึงในการเล่น Design ได้หลากหลายค่ะรูปแบบนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวสินค้าที่ออกแบบค่อนข้างชัดในเรื่องของรูปทรงและรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม

ข้อดี : การ Develop สินค้าแนวนี้จะทำให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เห็นแบบแตกต่างจากเดิมชัดเจน
แนวธุรกิจที่เหมาะจะนำไปใช้ : เทคนิคการ Develop แนวนี้เหมาะกับการเน้นความใหม่ การเปลี่ยนแปลงจากเดิมแบบเห็นได้ชัด และเหมาะจะนำไปใช้สำหรับตัว Limited edition หรือตัวสินค้าพิเศษที่ทำเฉพาะลูกค้าพิเศษที่จะได้ไป หรือธุรกิจที่มีความเรียบของรูปแบบสินค้ามานานและอยากสร้างความแตกต่าง


4. Inner or Bevel การสร้างดีเทลที่ลึกเข้าไป หรือนูนออกมา : เป็นการ Develop สินค้าได้ใน 2 แนวทางคือ

– การสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบเชิงดีเทล : มีการเปลี่ยน design เล็กๆน้อยๆ แต่ยังคงรูปแบบสินค้าเดิมอยู่ การนำมาใช้พัฒนารูปแบบสินค้าในแนวนี้จะเป็นการพัฒนาในเรื่องของมิติ และดีเทลรายละเอียดที่มากขึ้น เช่น การเล่น Design ของลวดลายคิ้วบัวบานประตู ( ลวดลายของบานประตูต่างๆที่มีลักษณะแบบนูนขึ้นมาและลึกลงไป ) ที่จะเห็นเป็นดีเทลมิติ แต่ว่ายังคงการงานเดิมคือเป็นประตู แต่ Detail ที่เปลี่ยนไปให้ความแตกต่างในแง่ของพื้นผิว ลวดลาย

– การสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิง Shape & Form : มีการเปลี่ยน Design ที่เห็นชัดเจนโดย Focus เล่นในเรื่องของมิติ ที่ถ้าหาเลือกในการเล่นมิติมากๆ สามารถทำให้เกิด Form ที่แตกต่างชัดเจน หรือสร้าง Function ขึ้นมาได้ชัดเจน เช่น เก้าอี้stool กล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั่งแบบไม่มีพนักพิงที่ถ้าต้องการ Function เพิ่มสามารถดึงอีกชิ้นส่วนออกมาจากข้างล่างเก้าอี้วางเป็นโต๊ะข้าง Side table สำหรับวางแก้วกาแฟ และช่องว่างที่เหลือในตัวเก้าอี้ใช้ใส่หนังสือด้านใต้แทน

ข้อดี : ประยุกต์ใช้ได้ทั้งในแบบ Detail และแบบ Function
แนวธุรกิจที่เหมาะจะนำไปใช้ : ประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบตามความต้องการและ Concept ของแต่ละธุรกิจ


5. Explode การทำให้แตกย่อยออกมา : เป็นการ Develop สินค้าแนวที่ต้องการความเป็นอิสระในการจัดวาง ซึ่งในการพัฒนาสินค้าแนวนี้รวมถึงการนำไปใช้ในรูปแบบของ Modular มีความอิสระในการจัดวาง และในบางกรณีสามารถเป็นได้ทั้งประโยชน์ทางด้านDesign และ Function เช่น กระจกเงาแบบ 6 เหลี่ยมที่สามารถต่อติดๆกันให้เป็นรังผึ้ง หรือสามารถเลือกที่จะติดกระจายได้แบบอิสระ หรือ ตัวต่อ Lego ที่คนต่อสามารถสร้างแบบได้ตามที่กำหนด หรือแบบที่ยากสร้างขึ้นเองได้

ข้อดี : ทำให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น และสามารถใช้งานได้อย่างอิสระ
แนวธุรกิจที่เหมาะจะนำไปใช้ : ธุรกิจที่ต้องการสร้างความรู้สึกดีเชิงแฝงให้กับแบรนด์กับลูกค้า โดยปกติแล้วการที่มีส่วนร่วมจะทำให้เกิดความผูกพันเชิงแฝง จะเป็นประโยชน์มากกับสินค้าที่มีความเป็น Signature ของ Brand ชัดเจน เพราะลูกค้าจะเกิดความผูกพันเชิงแฝงกับตัวสินค้าและ Brand มากขึ้น และความเป็น signature ของตัวผลิตภัณฑ์จะช่วยเน้นย้ำให้ลูกค้าจำได้ถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ว่าการ Develop ประเภทนี้ไม่เหมาะกับสินค้าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ เพราะมีขั้นตอนในการใช้งาน ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานในเวลาเร่งรีบ แต่เหมาะกับสินค้าที่สามารถใช้ได้ในวันสบาย หรือวันพักผ่อนว่างๆ


นี่ก็เป็น 5 แนวทางที่ติวคิดว่าคุณจะสามารถนำเอาไปประยุกต์ใช้ได้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคนค่ะ เป็นประโยชน์ทั้งในด้านของการ Develop ในแง่ของ Design และในบางตัวยังเป็นประโยชน์ในแง่ของ Function ซึ่งถ้าเราพัฒนาไปในรูปแบบที่ตรงกับโจทย์และ Concept ของเราก็จะง่ายขึ้น และนี่ยังเป็น Key ที่ช่วยคุณในเวลาที่คิดไม่ออกว่าจะพัฒนาสินค้าไปในแนวทางไหนดี หรือจะคิดแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ไปในแนวทางไหนได้บ้างค่ะ วิธีการเลือกใช้ขึ้นกับการเลือกให้ถูกกับประเภทของสิ่งที่เป็นเรา อะไรคือ Concept Brand ของเรา อะไรคือสิ่งที่ลูกค้านึกถึงเราจริงๆ อะไรคือสิ่งที่เราต้องการสื่อสารกับลูกค้า อะไรคือการที่ลูกค้าอยากใช้สินค้าหรือว่าสัมผัสเราจริงๆ เพราะความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และแนวทางต่างๆทำให้ง่ายต่อการลืมไปว่า จริงๆแล้ว ความเป็นตัวตนในแบรนด์ของเราคืออะไร สิ่งที่เป็นของดีของเราจริงๆคืออะไร หลายธุรกิจมักจะตามหาสิ่งที่ตัวเองไม่มีและเป็นจุดพลาดที่ทำให้ลืมความเป็น Signature ของตัวเอง ทำให้ลูกค้าเริ่มไม่แน่ใจว่า จริงๆแล้วแบรนด์นี้จะเป็นไปในแนวทางไหน ต้องการสื่ออะไร แล้วขายอะไร

 

Value your own signature
ลองสังเกตซิ ว่าทุกวันนี้เราเขวกลายเป็นคนอื่นและกลบความเป็น Signature ของตัวเองไปแล้วรึเปล่า

อยากเป็นคนคิดนอกกรอบปะล่ะ? ลองวิธีนี้สิ

อยากเป็นคนคิดนอกกรอบปะล่ะ? ลองวิธีนี้สิ

ถ้าการคิดนอกกรอบมันทำให้เราสนุกและรู้สึกดี เป็นประโยชน์ในหลายแขนงและทำให้เกิดสิ่งดีๆได้เยอะแยะ งั้นเรามาลองเป็นคนคิดนอกกรอบกันเถอะ หลายๆคนคงเคยเจอคนที่มีแนวคิดแปลกและไอเดียดีๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ทำงานทางด้านสายครีเอทีฟเท่านั้นแต่เรายังหาคนเหล่านี้ได้ทั่วไป เช่น คนที่แก้ปัญหาบางอย่างได้อย่างน่าทึ่ง คนที่แก้ระบบไฟฟ้าด้วยเทคนิคอื่นที่คิดพลิกแพลงเอง คนที่โยนมุขในแบบที่เราหยุดหัวเราะไม่ได้ คนที่ดูแลคนอื่นด้วยวิธีที่ใครๆคิดไม่ถึง และรวมถึงคนทำงานสายออกแบบและสร้างสรรค์ในแขนงต่างๆ   หลายๆคนคงรู้สึกแปลกใจ อาจรวมถึงประทับใจในสิ่งเหล่านี้จนเรารู้สึกว่า เค้ามีระบบความคิดยังไงนะ ทำไมถึงคิดอะไรได้แบบนั้น เราประทับใจและอยากทำได้แบบนั้นบ้าง อยากเป็นคนแบบนั้นบ้าง ติวจะขออนุญาตแบ่งแนววิธีการคิดนอกกรอบออกเป็น 2 อย่างค่ะ อย่างแรก คือ ผลงานที่เห็นเป็นชิ้นงาน หรือที่เราเห็นได้ในงานดีไซน์ต่างๆ ถ่ายทอดวิธีการคิดเป็นชิ้นงานออกมาแบบจับต้องได้ และสื่อวิธีการหรือผลงานให้เห็นแบบชัดเจน เช่น Designer ต่างๆ , นักซ่อมปีกผีเสื้อ , นักแต่งเพลง อย่างที่สอง คือ การสร้างสรรค์ผ่านระบบความคิด ซึ่งผลงานที่ออกมา เรารับรู้ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องจับต้องได้เป็นชิ้นงาน แต่เราสัมผัสได้จากความรู้สึก เช่น คนที่สร้างสรรค์ความสนุกและอารมณ์ดีให้คนอื่นแบบพี่โน้ต อุดมแต้พานิช , นักร้อง , นักดนตรีที่โซโลที่ […]

ของแจกฟรีที่เจอบน Internet เอามาใช้ยังไงให้ไม่ผิดลิขสิทธิ์

ของแจกฟรีที่เจอบน Internet เอามาใช้ยังไงให้ไม่ผิดลิขสิทธิ์

สมัยนี้ Internet ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษาหาความรู้ข้อมูล การติดต่อเพื่อนๆ การทำธุรกิจ เรื่องของสิ่งบันเทิง และยังมีคนกลุ่มที่ใจดีบนโลก Online ทำของแจกฟรีออกมาแบ่งปันให้คนอื่นๆได้ใช้กันอีกด้วยแต่เดี๋ยวก่อน ถ้าเราไม่ได้อ่านเงื่อนไขการใช้งานข้อตกลงให้ดีแล้ว อาจไม่ได้ Happy อย่างที่คิด เพราะจะมีปัญหาตามมาจากการทำผิดเงื่อนไขโดยไม่รู้ตัวแน่ๆ วันนี้ติวเลยเอาเรื่องราวของ ‘ ใช้ของแจกฟรียังไง ให้ Happy ทุกฝ่ายและไม่เป็นปัญหา ‘    ก่อนอื่นเรามาดูประเภทของที่นิยมแจกฟรีกันบน Internet กันก่อนค่ะ สิ่งที่มักจะมีคนใจดีแบ่งปันให้คนอื่นๆสามารถนำไปใช้ได้ ติวแบ่งออกเป็น 5 ประเภทให้คร่าวๆดังนี้ค่ะ 1. รูปภาพ : รูปภาพต่างๆตั้งแต่ภาพถ่าย ภาพผลงานของเจ้าตัว ภาพสินค้า และอื่นๆ 2.Music , Sound , Audio : เป็นได้หลายประเภทตั้งแต่ Sound […]

How to ขั้นตอนการดึงโทนสีจากรูปที่ชอบมาใช้งาน

How to ขั้นตอนการดึงโทนสีจากรูปที่ชอบมาใช้งาน

หลายๆคนคงเคยเจอปัญหาที่ว่า กำลังจะทำงานหรือทำธุรกิจ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะเลือกโทนสีที่ชอบยังไงดี
หรือในบางเคสอาจจะมีรูปที่ชอบมากเลย อยากได้โทนนี้แหละ สไตลล์แบบนี้เลย แต่ว่าไม่รู้จะเลือกสีออกมาใช้ยังไง
คือเราอยากได้อารมณ์แบบในภาพนี่แหละ แต่เราไม่รู้ว่าจะเดินหน้ายังไงต่อ ในภาพมีตั้งหลายสี แล้วเราจะเลือกใช้โทนสีไหน
ที่นี่มีคำตอบค่ะ เพราะในโพสนี้ ติวจะมาแชร์ How to ขั้นตอนการดึงโทนสีจากรูปที่ชอบมาใช้งาน 

ซึ่งติวมั่นใจว่าเทคนิคตรงนี้จะเป็นประโยชน์มากๆสำหรับคนที่ต้องการดึงค่าสีมาใช้ โดยเฉพาะเชิงธุรกิจค่ะ

ว่าแล้วก็ไปดูเทคนิคกันเลยว่าเราจะมีขึ้นตอนอะไรกันบ้างในการดึงสีออกมาใช้

ขั้นตอนการดึงโทนสี
1. ให้เราหารูปที่เราชอบมาซักรูปค่ะ จากนั้นเอาเข้าโปรแกรม Photoshop หรือ Illustator เพื่อลองเทียบค่าสีออกมา โดยให้เราดูดค่าสีตรงบริเวณที่เราเห็นชัดเจนออกมาจริงๆค่ะ อย่างน้อยที่สุดให้ได้ 4 สี  ถ้าเห็นมากกว่านั้นจะดึงออกมามากกว่าก็ได้ค่ะ พอเห็นสีแล้วให้ดึงสีแยกออกมาให้เห็นชัดๆข้างๆอย่างรูปตัวอย่างด้านล่างนี้ค่ะ

 

 

 

2. เมื่อเราได้สีที่ชัดเจนออกมาแล้วอย่างน้อย 4 สี ให้เราลองดูว่า สีที่มีเพียงพอและเป็นสีที่เราชอบรึยัง ถ้ายังให้เราลองทำการดึงสีเพิ่มค่ะ ให้เราค่อยๆสังเกตดูว่า มีโทนสีไหนที่เรามองข้ามไปรึเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่เราจะหาได้ใกล้ๆกับสีหลักที่เราดึงออกมาแต่จะเป็นค่าสีที่เป็นเงามืดหรือค่าสีที่เป็นแสง รวมถึงดีเทลต่างๆที่เรามองเห็นเป็นจุดเล็กๆก็เป็นดีเทลที่เราดึงสีออกมาได้ค่ะ ให้เราลองดึงค่าสีที่เหลือออกมาเพิ่มค่ะ  โดยตัวที่เราดึงมาลำดับที่สอง เราอาจจะทำเป็นสีแยกออกมาในขนาดที่เล็กลงเพื่อให้เห็นชัดเจนว่าเป็นสีลำดับที่ 2 ค่ะ
 


 

 

3.เมื่อเราได้ค่าสีออกมาแล้วให้เราลองมาวางเรียงสีเทียบดูค่ะ ว่าค่าสีที่เราดึงออกมามีอะไรบ้าง ค่าสีหลักคืออะไร และสีที่สองที่ดึงออกมาคืออะไร จากนั้นให้เราเลือกสีที่เราคิดว่าใช่และชอบออกมาอีกทีค่ะ 
 


 

 

4. จากนั้นให้เราเอาค่าสีมาเทียบเป็นโค้ดสีในคอมพิวเตอร์ หรือสามารถนำไปเทียบกับค่าสีใน Pantone ได้ค่ะ และนำสีเหล่านั้นไปเทียบวัสดุต่างๆ สีต่างๆเพื่อนำไปใช้งานในแขนงต่างๆ เช่น เทียบสีเสื้อผ้า เทียบสี wallpaper เทียบสี Furniture และงานตกแต่งภายใน เราก็จะได้โทนสีตามอารมณ์ที่เราต้องการออกมาค่ะ 

 

 

 

 

นี่ก็เป็นสรุปขั้นตอนต่างๆของดึงค่าสีออกมาใช้เพื่อให้เป็นประโยชน์กับการเอาไปต่อยอดทางธุรกิจและงานที่เกี่ยวข้องกับสีสันต่างๆค่ะ
ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ดีมากๆ ติวปรับประยุกต์บางส่วนเพื่อทำ Art ให้ง่ายต่อการเข้าใจ และติวได้เทคนิคนี้มา ต้องขอบคุณ อาจารย์ ต่าย ธีระ ค่ะ อาจารย์ช่วยสอนเรื่องเทคนิคการใช้สีที่เป็นประโยชน์มาก จนทำให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้และต่อยอดได้กับงานหลายแขนง จนติวเอามาแชร์และแบ่งปันในนี้อีกทีค่ะ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ให้คนที่สนใจ และอยากนำเทคนิคเรื่องสีไปใช้ในธุรกิจ ได้นำไปใช้แบบเป็นประโยชน์ค่ะ

เรื่องสีสันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีอิทธิพลกับหลายสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันของเราค่ะ แค่เราเลือกใช้ให้ถูก ให้ดีตามจังหวะและที่ทางที่เหมาะ ย่อมเป็นผลดีกับงานและธุรกิจของเราได้มากขึ้นค่ะ และการใช้ชีวิตก็เช่นกันค่ะ ถ้าเราใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับคนอื่น ชีวิตนั้นย่อมมีคุณค่าและมีสีสันที่แสดงถึงความสุขได้อย่างแน่นอนค่ะ

 


LIFE IS A BOX OF COLORS
‘ชีวิตเราก็เหมือนพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยสีสัน
จะมีคุณค่าแค่ไหนและเป็นประโยชน์ต่อใครนั้น อยู่ที่เราเลือกใช้ให้เป็นค่ะ ‘

 

 

โทนสีไหนกับเหมาะกับธุรกิจของคุณ

โทนสีไหนกับเหมาะกับธุรกิจของคุณ

ในเวลาที่เราทำสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน เราอาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบเจอกับเรื่องราวที่เป็นสีสัน ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การแต่งตัว การแต่งหน้าทาปาก การใช้สีสุภาพสำหรับทำงานหรือโอกาสต่างๆ เพราะสีเป็นส่วนนึงที่ช่วยบ่งบอกถึง ปัจจัยในการเอื้ออำนวยหลายๆอย่าง รวมถึงเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก มารยาทและกาละเทศะและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีมีความจำเป็นต่อธุรกิจทุกประเภทอย่างแน่นอน และสียังเป็นตัวช่วยสร้างเอกลักษณ์ความเชื่อถือ และส่งอารมณ์ร่วมให้แก่ลูกค้าอีกด้วย ในโลกเรา มีสีมากมาย ซึ่งจริงๆแล้วสามารถแยกแตกออกไปได้ในแบบที่ละเอียดหยิบย่อย แต่ละสีก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความรู้สึก อารมณ์และสถานการณ์ต่างๆที่ต่างกัน ดังนั้นถ้าเราสามารถเลือกใช้สีได้อย่างเป็นประโยชน์และเหมาะสม ย่อมส่งผลที่ดีแก่ธุรกิจของเราเองค่ะ วันนี้ติวเลยเอาข้อมูลเรื่องสีสันมาฝากค่ะ เป็นการจัดกลุ่มโทนสีและบอกว่าโทนสีไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณค่ะ ซึ่งข้อมูลในส่วนจะเป็นข้อมูลที่วิเคราะห์ย่อยออกมาเพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้งานต่อไป ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ ชุดสีที่ช่วยดึงดูดความสนใจ/ใช้ทำโฆษณา ชุดสีโทนนี้จะเป็นโทนสีที่ค่อนข้างสดเมื่อเห็นแล้วจะรู้สึกเด่นขึ้นมาหรือสะดุดตาถ้าใช้ทำงานสิ่งพิม จะทำให้เห็นได้ชัดเจนหรือจะเป็นงานที่จะอยู่บนสื่อต่างๆ หรือสื่อออนไลน์มักจะมีผลให้ผู้ที่เห็นหยุดมอง————————–——————ประเภทธุรกิจที่เหมาะกับสีนี้– โปรเจคโฆษณา– เครื่องดื่มประเภทให้พลังงาน– Shop ต่างๆที่แสดงถึงความมีสีสัน สนุก– เครื่องเล่นและสวนสนุก– อาคารหรือ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการดึงความสนใจจากผู้พบเห็น credit ภาพ : designseeds โทนสีที่เหมาะกับแฟชั่นผู้หญิง/ร้านขนม โทนสีนี้เป็นโทนสีที่มีความหวานแต่ละโทนสีจะมีค่าสีที่อ่อนเพราะมีการผสมกับค่าสีขาวทำให้เกิดความรู้สึกน่ารัก น่าหยิบจับ————————–ประเภทธุรกิจที่เหมาะกับสีโทนนี้– แฟชั่นสำหรับผู้หญิงหวานๆ– ร้านขนมหวาน– […]